ขั้นตอนที่ 1
น้ำซุปน้ำสต๊อกจากน้ำนมข้าวโพดตั้งไฟอ่อน จากเตาถ่าน ไฟไม่แรง ใส่ขาหมูพร้อมสมุนไพรจีน สำเร็จรูป 1 ซองใส่เกลือป่นไอโอดีนครึ่งช้อนโต๊ะตามด้วย พริกไทยดำทุบหนึ่งกำมือ กะทะเราใบใหญ่ค่ะ แล้วตามด้วยรากผักชีและกระเทียมสดทุบไม่ต้องละเอียดมาก 1กำมือ และตามด้วยข่าสดๆทุบหยาบสามสี่อันใส่ไป ตุ๋นและไฟอ่อนราวๆ 1.30 ชม พอเดือดเราปรุงรส ใส่ซอสซีอิ้วดำ 5 ช้อนโต๊ะ ซอสเห็ดหอม3ช้อนโต๊ะ ซอสฝาเขียวภูเขาทอง 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลป๊ป 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เราไม่เน้นเค็ม เน้นรสหวานประแล่มๆไม่หวานจัด เย๊าะน้ำมันหมูถ้ามีพอดีเรามีน้ำนมหมูเจียวเหลือนิดหน่อยใส่ไปประมาณ สองช้อนโต๊ะ อยากจะใส่ไข่ต้มเพิ่มความครบแต่กะทะของเราอัดแน่นล้นคงต้องใส่พรุ่งนี้แบ่งปันกับญาติบ้านใกล้กันห้าหลังคนละถ้วยนอกจากพ่อประทับใจแล้วการแบ่งปันให้ญาติๆที่นานๆได้แวะไปเยี่ยมเยียนหลังจากไม่ได้ไปสี่ห้าปี ทำให้เรามีความสนุกและใช้เวลาสามสี่ชั่วโมงจากทำน้ำนมข้าวโพดต่อขาหมูพะโล้ตุ่นน้ำสต๊อกน้ำนมข้าวโพดที่ไม่เททิ้งเอามาปรับใช้ต่อเป็นอีกสูตรที่เราเห็นความสำคัญแร่ธาตุน้ำนมจมูกข้าวโพดทำได้คาวและหวาน ที่สำคัญประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายเสริมและปรับพะโล้อีกแบบที่ใช้น้ำต้มธรรมดาๆ เป็นอีกประสบการณ์ที่เราทำและใช้เวลาเพลิดเพลินกับการทำอาหารนานๆเราจะหุงต้มด้วยเตาฟืนครั้งแรกปรกติที่กทมเราใช้เตาแก๊ส ทั้งประโยชน์จากน้ำซุปข้าวโฑดและประหยัดพลังงานแก๊ส สรุปตุ๋นจนขาหมูอ่อนนุ่มเพราะพ่อไม่มีฟันต้องใช้ฟันปลอมกินอาหารเลยตุ๋นซะ สองชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ

ขั้นตอนที่ 2
น้ำซุปน้ำสต๊อกจากน้ำนมข้าวโพดตั้งไฟอ่อน จากเตาถ่าน ไฟไม่แรง ใส่ขาหมูพร้อมสมุนไพรจีน สำเร็จรูป 1 ซองใส่เกลือป่นไอโอดีนครึ่งช้อนโต๊ะตามด้วย พริกไทยดำทุบหนึ่งกำมือ กะทะเราใบใหญ่ค่ะ แล้วตามด้วยรากผักชีและกระเทียมสดทุบไม่ต้องละเอียดมาก 1กำมือ และตามด้วยข่าสดๆทุบหยาบสามสี่อันใส่ไป ตุ๋นและไฟอ่อนราวๆ 1.30 ชม พอเดือดเราปรุงรส ใส่ซอสซีอิ้วดำ 5 ช้อนโต๊ะ ซอสเห็ดหอม3ช้อนโต๊ะ ซอสฝาเขียวภูเขาทอง 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลป๊ป 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เราไม่เน้นเค็ม เน้นรสหวานประแล่มๆไม่หวานจัด เย๊าะน้ำมันหมูถ้ามีพอดีเรามีน้ำนมหมูเจียวเหลือนิดหน่อยใส่ไปประมาณ สองช้อนโต๊ะ อยากจะใส่ไข่ต้มเพิ่มความครบแต่กะทะของเราอัดแน่นล้นคงต้องใส่พรุ่งนี้แบ่งปันกับญาติบ้านใกล้กันห้าหลังคนละถ้วยนอกจากพ่อประทับใจแล้วการแบ่งปันให้ญาติๆที่นานๆได้แวะไปเยี่ยมเยียนหลังจากไม่ได้ไปสี่ห้าปี ทำให้เรามีความสนุกและใช้เวลาสามสี่ชั่วโมงจากทำน้ำนมข้าวโพดต่อขาหมูพะโล้ตุ่นน้ำสต๊อกน้ำนมข้าวโพดที่ไม่เททิ้งเอามาปรับใช้ต่อเป็นอีกสูตรที่เราเห็นความสำคัญแร่ธาตุน้ำนมจมูกข้าวโพดทำได้คาวและหวาน ที่สำคัญประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายเสริมและปรับพะโล้อีกแบบที่ใช้น้ำต้มธรรมดาๆ เป็นอีกประสบการณ์ที่เราทำและใช้เวลาเพลิดเพลินกับการทำอาหารนานๆเราจะหุงต้มด้วยเตาฟืนครั้งแรกปรกติที่กทมเราใช้เตาแก๊ส ทั้งประโยชน์จากน้ำซุปข้าวโฑดและประหยัดพลังงานแก๊ส สรุปตุ๋นจนขาหมูอ่อนนุ่มเพราะพ่อไม่มีฟันต้องใช้ฟันปลอมกินอาหารเลยตุ๋นซะ สองชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ
